MRI คืออะไร

MRI คืออะไร

            หากกล่าวถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย สามารถตรวจวินิจฉัยให้ความถูกต้องและความแม่นยำสูง หลายคนคงจะเคยได้ยินกันบ่อยๆว่าให้ทำ MRI แต่อีกหลายคนก็คงไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว MRI คืออะไร ทำงานอย่างไร และสามารถตรวจอะไรได้บ้าง

            MRI (Magnetic Resonance Imaging) หรือ เครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า คือ การตรวจอวัยวะต่างๆโดยส่งคลื่นวิทยุเข้าไปกระตุ้นอวัยวะ เมื่อหยุดกระตุ้นอวัยวะจะคายพลังงานมาที่อุปกรณ์รับสัญญาณแปลงเป็นภาพออกมาทางจอภาพ

            ปัจจุบันโรงพยาบาลต่างได้มีการใช้อย่างแพร่หลายเพราะสามารถวินิจฉัยได้ทั้งความผิดปกติ ของอวัยวะและการทำงานของอวัยวะ อีกทั้งเป็นการตรวจที่ปลอดภัยและให้ความแม่นยำสูง ในการตรวจแต่ละครั้งจะใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง

 

Credit photo : www.siemens.co.uk

Credit photo : www.siemens.co.uk

 

ระบบอวัยวะที่สามารถตรวจได้

  1. ระบบสมอง
  2. ระบบไขสันหลัง
  3. ระบบกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ
  4. ระบบช่องปอด และช่องท้อง
  5. ระบบหัวใจ
  6. ระบบหลอดเลือดดำและแดง

โดยเฉพาะในส่วนของระบบสมองและกระดูกสันหลัง สามารถทำได้ดีกว่าการตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computer  Tomography/ CT Scan)

 

เตรียมพร้อมก่อนเข้ารับการตรวจ

  1. ทำใจให้สบาย ไม่ต้องกลัว เพราะไม่มีการเจ็บปวดจากการตรวจใดๆ
  2. เมื่อเครื่องทำงานอาจจะมีเสียงดัง ไม่ต้องตกใจ
  3. หากต้องการความช่วยเหลือสามารถพูดผ่านไมโครโฟนที่อยู่ภายในเครื่องได้
  4. ในการตรวจแต่ละชุดต้องนอนให้นิ่งที่สุด มิเช่นนั้นภาพที่ได้อาจไม่ชัดเจน อาจทำให้การวินิจฉัยไม่ชัดเจน หรือต้องถ่ายใหม่
  5. สามารถให้ญาติเข้าไปนั่งเป็นเพื่อนได้ไม่มีอันตรายอะไร
  6. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า เพราะเครื่องสำอางบางชนิดมีส่วนผสมของโลหะอาจทำให้ภาพบิดเบี้ยวได้
  7. จะใส่ปลอกแขน หรือถุงเท้าก็ได้ เนื่องจากในห้องตรวจจะหนาวมากและใช้เวลานานในการตรวจ

 

ผู้ที่ห้ามตรวจ MRI

  • ผู้ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (pacemaker)
  • ผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัดใส่ clips หรือโลหะต่างๆ
  • ผู้ที่มีสิ่งแปลกปลอมที่เป็นโลหะอยู่ในร่างกาย เช่น เคยถูกยิงและมีกระสุนตกค้างอยู่ในร่างกาย

 

สิ่งที่ไม่ควรนำติดตัวเข้าไปตรวจ

  • เครื่องประดับต่างๆ เช่น นาฬิกา สร้อย ต่างหู กิ๊บ เข็มกลัด
  • เครื่องช่วยหูฟัง ฟันปลอม
  • บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม บัตรที่มีแถบแม่เหล็กทั้งหมด
  • สิ่งของที่เป็นโลหะ เช่น กุญแจ คลิป ปากกา
  • โทรศัพท์มือถือ วิทยุติดตามตัว

 

          ก่อนทำการตรวจ MRI จะมีการฉีดสารแกโดลิเนียม(Gadolinium) เพิ่มความแตกต่างของเนื้อเยื่อ(ฉีดสี)  เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและรายละเอียดของภาพให้ดียิ่งขึ้น  ซึ่งสารนี้(คนละชนิดกับสารทึบรังสีในการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์) จะถูกขับออกทางปัสสาวะเกือบหมดภายใน 24 ชั่วโมง  และมีอาการข้างเคียงหลังฉีดสารที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ คลื่นไส้อาเจียน ผื่นแดง และคันตามร่างกาย

          ในกรณีที่มีนัดตรวจเลือด และทำ MRI  ในวันเดียวกัน  ให้ผู้ป่วยไปเจาะเลือดตรวจก่อน เพราะหากทำ MRI แล้วจะต้องมีการฉีดสี ซึ่งทำให้ไม่สามารถไปเจาะเลือดตรวจได้ค่ะ

 

 

More from my site

แชร์บทความนี้ให้กับเพื่อนๆของคุณด้วยนะคะ^^

Comments

comments