ปัจจุบันมีอัตราการเกิดผู้ป่วยรายใหม่โรคมะเร็งประมาณ 120,000 คนต่อปี โดยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (lymphoma) อยู่ในอันดับที่ 5 ของมะเร็งชายไทย รองจากมะเร็งตับ/ท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมาก
ต่อมน้ำเหลือง เป็นศูนย์รวมของเม็ดเลือดขาว ทำหน้าที่ตรวจจับเชื้อโรค และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน มาต่อสู้กับเชื้อโรคนั้น จะพบมากบริเวณคอ , รักแร้ , ช่องท้อง ,ช่องอก และขาหนีบ หากเม็ดเลือดขาวเกิดความผิดปกติก็จะกลายเป็น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง(Lymphoma) ได้ สามารถเป็นได้ทั่วร่างกาย เพราะต่อมน้ำเหลืองมีอยู่ในทุกอวัยวะซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มี 4 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 อยู่ที่อวัยวะทีเดียว เช่น ที่คอด้านใดด้านหนึ่ง หายขาดได้ 80 %
ระยะที่ 2 อยู่ 2 ที่ เช่น ที่คอด้านซ้าย ขวา(แบ่งช่วงโดยกระบังลม เป็นส่วนบนกับส่วนล่าง)
ระยะที่ 3 อยู่ 2 ที่ หรือมากกว่า และข้ามกระบังลม เข่น อยู่ที่คอ 1 ที่ และขาหนีบ 1 ที่
ระยะที่ 4 ไปตามไขกระดูก , กระแสเลือดแล้ว หายขาดได้ 30 %
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีรังสี สารเคมี หรือทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมยาง อุตสาหกรรมทำละลายเช่น สี เป็นต้น
- มีการติดเชื้อเรื้อรัง ไวรัส เช่น ตับอักเสบชนิด ซี , HIV
- บางกรณีไม่ทราบสาเหตุ
- หากเป็นมะเร็งจากการกระจายมาจากบริเวณอื่น จะไม่เรียกว่า มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เพราะไม่ได้เป็นที่เซลล์ต่อมน้ำเหลืองโดยตรง
อาการบ่งชี้ระยะเริ่มต้น
- ต่อมทอมซิลโต คลำก้อนได้บริเวณคอ , รักแร้ และก่อนนั้นโตขึ้นเรื่อยๆ ถ้าต่อมน้ำเหลืองอักเสบธรรมดา จะยุบลงภายใน 2 สัปดาห์
- มีไข้ , เบื่ออาหาร , น้ำหนักลด , ผอมลงโดยไม่ทราบสาเหตุ , มีเหงื่อออกตอนกลางคืน
อาการบ่งชี้ระยะลุกลาม
- ปวดที่ต่อมน้ำเหลือง หลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล
- หากเป็นในช่องท้อง จะมีอาการแน่นท้อง หรืออาหารไม่ย่อยได้
- ชา หรือปวดตามแขนขา เพราะต่อมน้ำเหลืองที่โต ไปเบียดอวัยวะข้างเคียง เช่น หลอดเลือด หรือเส้นประสาท
การรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- ทำเคมีบำบัด ร่วมกับการทานยา
- ฉายแสง กรณีที่ทำเคมีบำบัดไม่ได้ผล
- ปลูกถ่ายสเต็มเซลล์กรณีที่รักษาหาย และกลับมาเป็นซ้ำอีก
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มี 2 ชนิด คือ
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin Lymphoma)
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin Lymphoma) จะพบมากในประเทศไทย ถ้าแบ่งตามอัตราการเจริญของตัวมะเร็ง จะแบ่งเป็น 2 ชนิด
- ชนิดค่อยเป็นค่อยไป (Indolent) มีอัตราการแบ่งตัวของมะเร็งค่อนข้างช้า แต่จะรักษาไม่หายขาด
- ชนิดรุนแรง (Aggressine) มีอัตราการแบ่งตัวของมะเร็งเร็ว หายขาดได้ถ้าได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แต่หากไม่ได้รับการรักษาก็อาจเสียชีวิตได้ภายใน 6 เดือน – 2 ปี
ผู้สูงอายุมักจะมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆมากกว่าวัยอื่น เนื่องจากวัยนี้จะมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำลง แต่เราสามารถป้องกันได้โดยการหมั่นดูแลสุขภาพของตนเอง และคนใกล้ชิด การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หมั่นออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงสภาวะแวดล้อมที่เป็นพิษ ไม่เครียด และหมั่นสังเกตุความผิดปกติของร่างกาย หากมีอาการผิดปกติ ไม่ควรนิ่งนอนใน เพราะหากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะสามารถรักษาหายขาดได้ และหากกระจายไปทั่วร่างกายแล้วก็ยังมีโอกาสหายขาดถึง 50%