อาการปวดฟัน นั้นมักเกิดจากการรับประทานอาหารรสจัดๆ ทั้งหลาย หรือมีปัญหาสุขภาพฟันต่างๆ ได้แก่ ฟันผุ, เหงือกอักเสบ, ฟันเป็นหนอง หรือเหงือกร่น เป็นต้น โดยในระยะแรกมักเริ่มจากการเสียวฟันก่อน แล้วค่อยๆ ปวดฟันจนลุกลามไปเป็นปวดศีรษะได้ และอาการปวดฟันจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรากฟันถูกทำลายจนไม่มีออกซิเจนหรือเลือดมาหล่อเลี้ยง โดยสุดท้ายก็อาจจะสูญเสียฟันไปในที่สุด
วิธีแก้อาการปวดฟัน
- ให้ประคบน้ำอุ่นบนใบหน้าด้านที่ปวดฟัน
- กรณีปวดฟันแบบตุบๆ ให้ประคบด้วยน้ำแข็งเรื่อยๆ ทุกครึ่งชั่วโมง ครั้งละประมาณ 5 – 10 นาที
- หากอยู่ในช่วงอากาศหนาวให้ใช้ผ้าพันคอพันแบบปิดปากไว้
- เลือกใช้ยาสีฟันสูตรสมุนไพร หรือเกลือ ที่ไม่มีเมนทอลเพิ่มความเย็น
- หลีกเลี่ยงอาหารประเภทเย็นจัด, ร้อนจัด, เปรี้ยวจัด หรือหวานจัด เช่น ไอศกรีม, ชา, กาแฟ เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงอาหารประเภทแข็งๆ ที่ต้องใช้ฟันขบกัดแรงๆ
- หากอุดฟันอยู่ควรงดเคี้ยวหมากฝรั่ง
- นวดศีรษะ, ฝ่ามือ, ฝ่าเท้า หรือแก้มข้างที่ปวดฟันเบาๆ จะบรรเทาอาการปวดฟันได้
- รับประทานยาแก้ปวด
- ใช้ว่านหางจระเข้ที่สะอาดแล้ว มาเหน็บ หรือป้ายบริเวณฟันที่ปวดไว้
- พบทันแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเป็นประจำ
- พยายามหลีกเลี่ยงอย่าให้ฟันกระทบ หรือกระแทกแรงๆ กับอาหารหรือวัตถุต่างๆ
- อมน้ำเกลือประมาณ 5 – 10 นาที เพราะน้ำเกลือจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและบรรเทาอาการปวดฟันได้ค่ะ
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นผักและผลไม้เป็นหลัก โดยเฉพาะผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซีอย่างส้ม, แอปเปิล หรือฝรั่ง เป็นต้น
- ไปขูดหินปูนเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน
โดยอาการปวดฟันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน หากเกิดอาการปวดฟันขึ้นอย่าปล่อยทิ้งไว้ให้เรื้อรังนะคะ ควรรีบไปพบ
ทันตแพทย์เพื่อทำการรักษากันแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันการลุกลามจนนำไปสู่การสูญเสียฟันในที่สุดค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก www.flickr.com
More from my site
แชร์บทความนี้ให้กับเพื่อนๆของคุณด้วยนะคะ^^