ปวดท้องด้านซ้ายเกิดจากอะไร?

ปวดท้องด้านซ้าย   เกิดจากอะไร

            อาการปวดท้องถือเป็นสัญญาณเตือนของร่างกายถึงสุขภาพซึ่งอาจก่อโรคบางอย่างขึ้นภายในร่างกายของเรา ซึ่งหากมีอาการปวดท้องด้านซ้ายก็สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และทุกครั้งที่เกิดอาการปวดท้องขึ้นเราก็มักจะเจ็บปวดจนตัวบิดทุกครั้งไปเลย ซึ่งมีหลายคนที่ละเลยและไม่ใส่ใจกับอาการปวดท้องเหล่านี้ โดยคิดว่าสามารถหายได้เอง แต่แท้จริงแล้วอาการที่เกิดขึ้นเป็นประจำอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงได้นะคะ

 

สาเหตุของการเกิดอาการปวดท้องด้านซ้าย

            – เกิดจากอาการท้องผูก โดยหากเราถ่ายไม่ออกเป็นเวลาหลายวันแล้ว เกิดอาการปวดท้องด้านซ้ายขึ้นก็อาจ

บ่งบอกได้ค่ะว่าเกิดอาการท้องผูกขึ้นแล้ว

            – เกิดจากอาการลำไส้อักเสบ ส่วนใหญ่อาการปวดท้องนี้จะเกิดแล้วหายได้เองภายในวันหรือสองวัน โดยอาจ

เกิดจากของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้

            – เกิดจากปีกมดลูกอักเสบ มักเกิดอาการปวดท้องร่วมกับอาการแน่นท้องน้อย, คลื่นไส้ หรือแสบขัดขณะปัสสาวะ

            – หากปวดท้องด้านซ้ายด้านบนก็อาจเกิดจากการอักเสบภายในกระเพาะ, ม้าม, ไต หรือตับ และลำไส้

            – หากปวดท้องด้านซ้ายด้านล่างก็อาจเกิดจากการอักเสบของลำไส้ หรือปีกมดลูก

 

วิธีป้องกันอาการปวดท้องด้านซ้าย

            – ให้รับประทานผักและผลไม้มากๆ เพราะในผักและผลไม้นั้นมีกากใยอาหารอยู่มาก ทำให้สามารถขับถ่ายได้ดี

            – หากเกิดปวดปัสสาวะให้รีบไปเข้าห้องน้ำทันที อย่ากลั้นปัสสาวะบ่อยๆ

            – ให้เลือกรับประทานอาหารแบบเบาๆ ท้อง ที่ย่อยได้ง่าย และไม่ทานอาหารรสจัด

            – หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

            – นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน

            – ดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดให้ได้วันละมากๆ

            – ทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียดหรือวิตกกังวลในเรื่องต่างๆ มากจนเกินไป

 

            ซึ่งหากเกิดอาการปวดท้องด้านซ้ายขึ้นให้นำกระเป๋าน้ำร้อนมาประคบบริเวณท้องด้านซ้าย และหากไม่หายเป็น

เวลาหลายวัน และรุนแรงขึ้นให้รีบไปพบคุณหมอทำการรักษานะคะ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานวันเข้าอาจก่อให้เกิดโรค

อื่นๆตามมาได้ค่ะ

 

ขอบคุณรูปภาพจาก www.flickr.com

แชร์บทความนี้ให้กับเพื่อนๆของคุณด้วยนะคะ^^

Comments

comments