อาการปวดท้องบิดเป็นพักๆ เกิดจากการอักเสบของบริเวณลำไส้ มักจะตามมาด้วยอาการท้องเสีย, คลื่นไส้, อาเจียน, ไม่มีแรง, มีไข้ขึ้นสูง, ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว หรือถ่ายอุจจาระออกมาเป็นน้ำ ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียและไวรัสที่เราได้รับเข้าไปเจริญเติบโตในร่างกายเรา โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ชนิดเฉียบพลัน และชนิดเรื้อรัง โดยหากมีอาการเช่นนี้นานเกิน 2 อาทิตย์ ก็จะถือว่าเป็นชนิดเรื้อรัง
สาเหตุของอาการปวดท้องบิดเป็นพักๆ จากโรคลำไส้อักเสบ
– เกิดจากการได้รับสารพิษที่ปนเปื้อนมาในอาหาร
– รับประทานอาหารทะเลประเภทสุกๆ ดิบๆ
– รับประทานอาหารค้างคืนซึ่งอาจบูดแล้ว
– การทานอาหารประเภทปิ้งๆ ย่างๆ
– การดื่มน้ำไม่สะอาด ไม่ได้ผ่านการกรองหรือต้ม
– การสัมผัสถูกปัสสาวะ หรืออุจาระของผู้ที่มีเชื้อเหล่านี้อยู่จากการเข้าห้องน้ำสาธารณะ
การป้องกันอาการปวดท้องบิดเป็นพักๆ จากโรคลำไส้อักเสบ
– รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ไม่ทิ้งไว้ค้างคืน
– ตรวจสอบดูก่อนว่าอาหารนั้นบูดหรือไม่
– ดื่มน้ำสะอาดที่ต้มสุก หรือผ่านการกรองเสมอ
– ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
– ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำอย่าลืมล้างมือให้สะอาดก่อนออกจากห้องน้ำเสมอ
– ก่อนนั่งลงบนโถสุขภัณฑ์ในห้องน้ำให้เช็ดทำความสะอาดก่อนนั่ง หรืออาจใช้แอลกอฮอล์เช็ดก่อน หรือให้นำกระดาษ
ทิชชูรองก่อนนั่งทุกครั้ง
– งดรับประทานอาหารประเภทสุกๆ ดิบๆ
– หลีกเลี่ยงอาหารประเภทปิ้งๆ ย่างๆ ทั้งหลาย
– ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนหยิบจับอาหารเข้าปาก
หากเริ่มมีอาการปวดท้องบิดเป็นพักๆ ครั้งละไม่ต่ำกว่า 2 – 3 นาที แล้วรู้สึกอ่อนเพลียจนปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ และ
มีไข้หนาวสั่นร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีนะคะ เพราะอันตรายถึงขั้นช็อค หรือ เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้นะคะ
ขอบคุณรูปภาพจาก www.flickr.com