วิธีรักษาโรคปลายประสาทอักเสบ

 4. วิธีรักษาโรคปลายประสาทอักเสบ

โรคปลายประสาทอักเสบส่วนใหญ่มักพบในผู้ที่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน หรือผู้สูงอายุ โดยผู้ป่วยมักจะรู้สึกชาแบบร้อนซู่ๆ หรือปวดบริเวณนิ้วมือหรือนิ้วเท้า โดยเฉพาะช่วงเวลากลางดึกหรือหลังตื่นนอน และต่อมามักจะมีอาการชาแบบหนาๆ คล้ายกับกำลังสวมถุงเท้าอยู่ ส่วนในผู้สูงอายุมักจะมีอาการแขน-ขาอ่อนแรง ร่วมกับอาการปวดหรือชาตามหลังด้วย นอกจากนี้ ในผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ หรือได้รับยาและสารพิษบางประเภทก็อาจเกิดโรคปลายประสาทอักเสบขึ้นได้เช่นกันค่ะ

 

               อาการของโรคปลายประสาทอักเสบ

               – รู้สึกชาหรือปวดแสบร้อนตามปลายเท้าโดยเฉพาะช่วงกลางดึก

               – อาจรู้สึกเหมือนมีเข็มแทงที่เท้าอยู่

               – ความรู้สึกไวกว่าปกติ แม้เพียงโดนสัมผัสเบาๆ บริเวณปลายเท้าก็รู้สึกเจ็บหรือปวด

               – บริเวณปลายมือหรือเท้าเย็นหรือร้อนแบบผิดปกติ

               – ไม่รู้สึกเจ็บหรือปวดขณะเกิดแผลที่บริเวณเท้า

               – กล้ามเนื้อแขนและขาเริ่มอ่อนแรง

               – หากเกิดแผลขึ้นมักเป็นแบบเรื้อรัง

               – เท้าอาจผิดรูปร่างไปจากเดิม

 

               การรักษาโรคปลายประสาทอักเสบ

               – ให้เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ อย่าอยู่ในท่าใดท่าหนึ่่งเป็นเวลานานจนเกินไป

               – หากมีโรคประจำตัวอย่างเบาหวาน ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ และพยายามรักษา

ระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

               – หากมีอาการรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดรักษา

               – ทำการกายภาพบำบัดเพื่อเป็นการฟื้นฟูเซลล์กล้ามเนื้อและเส้นประสาทให้กลับมาเป็นปกติ

 

               ดังนั้น หากอยากห่างไกลจากโรคเหล่านี้ควรหมั่นออกกำลังกายให้ร่างกายสร้างเสริมภูมิต้านทาน ควบคู่กับ

การรับประทานอาหารให้ครบหมู่ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะช่วยให้ห่างไกลจากโรคต่างๆ ได้แล้วล่ะค่ะ

และหากเกิดอาการโรคปลายประสาทอักเสบขึ้นควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษานะคะ อย่าปล่อยให้โรคเรื้อรังจน

ลุกลามยากเกินจะเยียวยาค่ะ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

>> อาการชาตามแขนขา เสี่ยงปลายประสาทอักเสบ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก
Bangkok Hospital

 

 

ขอบคุณรูปภาพจาก www.flickr.com

แชร์บทความนี้ให้กับเพื่อนๆของคุณด้วยนะคะ^^

Comments

comments