อาการปวดหัวข้างเดียวจี๊ดๆ

อาการปวดหัวช้างเดียวจิ๊ดๆ

หากรู้สึกเริ่มมีอาการปวดหัวข้างเดียวจี๊ดๆ ค่อยๆลามจากปวดบริเวณขมับแล้วมาถึงเบ้าตา และปวดทีหลายวัน แม้ว่าจะรับประทานยาระงับปวดไปแล้วก็ตาม ซึ่งใครที่กำลังมีอาการนี้อยู่ก็อาจเข้าข่ายเกิดโรคไมเกรนได้ค่ะ ซึ่งอาการปวดหัวข้างเดียวแบบจี๊ดๆ มีผู้คนจากทั่วโลกต่างป่วยด้วยโรคนี้เยอะมากๆ เลยทีเดียว ซึ่งหากปล่อยไว้เป็นเวลานานโดยไม่ทำการรักษาอาจเป็นบ่อเกิดของโรคมะเร็งสมองได้ค่ะ

 

สาเหตุของอาการปวดหัวข้างเดียว

            – เกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว

            – จากภาวะความเครียดหรือความวิตกกังวลต่างๆ

            – เกิดจากการอดหลับอดนอน หรือนอนพักผ่อนน้อย

            – ผู้ที่ชอบดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่

            – ผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือน หรือทานยาคุมอยู่

            – เกิดจากอาหารบางชนิด ได้แก่ ชา, กาแฟ, ช็อกโกแลต, ถั่วลิสง, กะหล่ำปลีดอง, ไส้กรอก, น้ำตาลเทียม เป็นต้น

               – อยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดังจ้อกแจ้กจอแจ ผู้คนพลุกพล่าน

            – อยู่ในที่ที่มีแสงจ้า หรือแดดแรงมากๆ

            – ได้รับควันพิษ หรือสารพิษต่างๆ ในปริมาณมาก

 

วิธีการป้องกันอาการปวดหัวข้างเดียว

            – ไม่ดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่

            – ไม่อดนอน จัดสรรเวลา นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

            – ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

            – รับประทานอาหารให้เป็นเวลา และครบทั้ง 3 มื้อ

            – ดื่มชา, กาแฟ หรือจำกัดปริมาณอาหาร ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวต่างๆ

            – ดื่มน้ำสมุนไพรอย่างเก๊กฮวย

            – รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักใบเขียว และผลไม้เป็นหลัก

            – เสริมแคลเซียมด้วยงาดำ, นม หรือปลาต่างๆ

            – มีอารมณ์ดี ไม่ขุ่นมัว และไม่เครียด

 

โดยหากใครที่กำลังเกิดอาการปวดหัวข้างเดียวแบบจี๊ดๆเป็นประจำ เป็นเวลานาน ไม่ควรละเลยนะคะ

ควรไปทำการตรวจเช็คร่างกาย และเอ็กซเรย์สมอง เพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง

สมองที่อาจก่อเกิดโรคขึ้นได้โดยไม่รู้ตัวค่ะ

 

ขอบคุณรูปภาพจาก www.flickr.com

 

แชร์บทความนี้ให้กับเพื่อนๆของคุณด้วยนะคะ^^

Comments

comments