ปัจจุบันในยุคสังคมก้มหน้าอาการปวดเบ้าตาเป็นกันมากเลยทีเดียว เนื่องจากวิถีชีวิตการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ บวกกับเทคโนโลยีอย่างมือถือ หรือสมาร์ทโฟน เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้หลายคนกลายเป็นคนติดสิ่งอุปกรณ์เหล่านี้ ซึ่งการจ้องมองสิ่งเหล่านี้นานๆ ในระยะยาวแสงจากหน้าจอก็จะส่งผลให้เกิดอาการปวดเบ้าตาขึ้นได้ค่ะ
สาเหตุของอาการปวดเบ้าตา
– ความเครียดทั้งจากการทำงาน หรือชีวิตประจำวัน
– เกิดจากการจ้องมองโทรทัศน์ หรือจอคอมพิวเตอร์มากเกินไป
– เกิดจากการโดนลมเป่าหน้าเป็นเวลานาน อย่างการนั่งเป่าพัดลม หรือการนั่งรถมอเตอร์ไซค์ที่มีลมโกรกอยู่เสมอ
– มักเกิดในคนที่อดหลับอดนอน หรือนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ
– การทำงานทั้งวันแบบไม่พักสายตาเลย
วิธีการป้องกันอาการปวดเบ้าตา
– ควรพักสายตาบ้างระหว่างทำงาน โดยการมองชมวิว หรือละสายตามองออกไปด้านนอกแบบไกลๆ หรืออาจหลับตา
ลงสักพักแล้วค่อยทำงานต่อ จะช่วยให้เบ้าตาไม่ต้องทำงานหนัก
– ไม่จ้องหน้าจอทีวี คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นเวลานานจนเกินไป
– ควรตั้งจอคอมพิวเตอร์ หรือทีวี ให้อยู่ในระยะห่างพอสมควร และควรวางไว้ในที่ที่ไม่มีแสงสะท้อนจากหน้าจอ
– หมั่นบริหารสายตาโดยการกลอกตาไป-มา และขึ้น-ลง สลับกันซ้ายและขวา
– ให้นำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นมาประคบดวงตา เพื่อให้ดวงตาเกิดความผ่อนคลาย
– ไม่ควรอดนอน ให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน
– หลีกเลี่ยงจากการโดนลมเป่าหน้า โดยอาจหาแว่นตามาใส่ หรือหลับตาลงขณะโดนลมโกรกหน้า
ทั้งนี้ สำหรับใครที่รู้สึกปวดเบ้าตาแบบรุนแรงควรรีบไปพบจักษุแพทย์นะคะ เพราะดวงตาเรียกว่าเป็นอวัยวะสำคัญที่สุด
สำหรับเราเลยก็ว่าได้นะคะ
ขอบคุณรูปภาพจาก www.flickr.com